top of page

โรงเจ ฮะเฮงตั้ว

เซียนแป๊ะโค้วเดิมท่านชื่อเอียะฮง แซ่เล้า เป็นหนุ่มซินตึ๊งมาจากเมืองจีน หวังมาหาความเจริญที่เมืองไทย เมื่อแรกมาอยู่เมืองไทยได้มาทำงานเป็นเด็กฝึกงานที่ร้านแถวเยาวราช เนื่องด้วยท่านเป็นคนฉลาดขยันขันแข็งได้ไต่เต้าจนได้เป็นหลงจู๊(ผู้จัดการ)ของร้าน ตอนหลังท่านพิจารณาว่าการกินเงินเดือนเป็นมนุษย์เงินเดือนมั่นคงดีแต่รวยช้า ท่านจึงคิดไปทำสวนผลไม้เพราะสมัยนั้นคนทำสวนยังมีน้อยจึงขอลาออกจากเถ้าแก่ ตอนแรกเถ้าแก่ก็ไม่ยอมแต่พอเห็นว่าทัดทานยังไงก็ไม่ได้จึงได้มอบเงินให้ก้อนหนึ่งไปลงทุน ท่านได้เช่าอยู่ที่ปัจจุบันเรียกว่า หัวตะเข้ ด้วยความขยันขันแข็งและความรู้ทางด้านเกษตร ทำให้กิจการของท่านเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ไปสะดุดใจเจ้าของที่ดินที่ท่านเช่า เจ้าของที่ดินมีลูกสาวอยู่ ชื่อมาลัย เจ้าของที่ดินจึงลองมาทาบทามดูว่ามีครอบครัวที่เมืองจีนหรือเปล่า ท่านก็ตอบว่ายังไม่มี เขาเลยถามอีกว่า คิดมีครอบครัวบ้างหรือเปล่า ท่านก็ตอบว่า คิดอยู่จะได้ช่วยกันทำมาหากิน เจ้าของที่ดินจึงบอกว่าจะยกลูกสาวให้ สมัยนั้นการแต่งงานส่วนมากเกิดจากผู้ใหญ่ชักพา

แต่แล้วในขณะชีวิตกำลังไปได้ดี แม่ของท่านได้ส่งจดหมายมาบอกว่าได้ทาบทามผู้หญิงให้แล้วให้รีบกลับมาแต่งงาน ทำให้ท่านรู้สึกแย่มากเพราะกับสาวมาลัยได้ปูพื้นความรักขึ้นมาแล้ว แต่ด้วยความกตัญญู คนจีนสมัยก่อนจะมีความกตัญญูต่อพ่อแม่มาก สิ่งใดที่พ่อแม่ต้องการก็จะไม่ขัดใจท่าน อาจจะเป็นเพราะความกตัญญูทำให้คนจีนสมัยก่อนจึงร่ำรวย ทำกิจการใดก็ประสบความสำเร็จ ด้วยความกตัญญูต่อแม่นี้ท่านจึงยอมตัดใจจากคนรัก เดินทางกลับประเทศจีน สมัยนั้นในสมัยรัชกาลที่ห้า การเดินทางด้วยเรือสำเภาใช้เวลายาวนานมาก กว่าจะถึงเมืองจีนใช้เวลาหลายเดือน เมื่อไปถึงปรากฏว่าสาวที่แม่เลือกให้ได้แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว ท่านจึงอยู่ปฏิบัติแม่เพราะจากมาหลายปีอีกสองเดือนจึงเดินทางกลับไทย แต่เมื่อมาถึงทางนี้ท่านก็ต้องหัวใจสลาย สาวมาลัยได้แต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว ขณะที่ท่านเดินใจลอยสะเปะสะปะผ่านศาลเจ้า ก็มีเสียงลึกลับว่า ท่านเซียนแป๊ะโค้ว โพธิสัตว์ เชิญมาพำนักที่นี่ หลังจากนั้นท่านจึงอยู่ปฏิบัติธรรมที่ศาลเจ้าแห่งนั้น คนพอเรื่องเดือดร้อนมาขอให้ท่านช่วยท่านก็สงเคราะห์ช่วยเหลือไป จนคนร่ำลือความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน เรียกท่านว่าเซียนบ้าง ท่านมีอภินิหารมาก คนเฒ่าคนแก่เล่ากันว่าถ้าใครโดนผีสิงเซียนท่านจะนำธงขีดเป็นวงในอากาศ ปรากฏว่าร่างที่โดนผีสิงจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถออกจากวงล้อมนี้ได้ ท่านจะพูดคุยสั่งสอนแล้วจัดทำบุญอุทิศให้วิญญาณไปเกิด คนโดนผีเข้าจะหายแบบน่าอัศจรรย์

จนมีครั้งหนึ่งที่ทำให้ท่านเป็นตำนานเล่าขานจนถึงทุกวันนี้ มีเด็กถูกจระเข้คาบดำน้ำไป มีคนมาตามท่านให้ไปช่วย ท่านไปยืนบริกรรมอยู่ริมฝั่งสักพักเดียว จระเข้ก็คาบเด็กขึ้นมาหาท่านจึงเอาเท้าเหยียบที่หัวจระเข้ จระเข้ก็คายเด็กออกมา ปรากฏว่าเด็กยังไม่ตาย

เมื่อท่านสิ้นอายุ ท่านดับขันธ์ด้วยท่านั่งสมาธิ ร่างกายท่านไม่เน่าเปื่อย ทางศาลเจ้าจึงนำมาให้คนได้กราบไหว้

bottom of page